วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555


รู้เท่าทันยาลดความอ้วน


                 


ยาลดความอ้วน


          จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์ ร้านที่จะขายได้ต้องมีใบอนุญาต ฤทธิ์ของยาจะกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ลดความถี่ของความรู้สึกหิวการใช้ยาลดน้ำหนักทุกชนิดจะทำให้น้ำหนักลดลงได้ในช่วงที่กินยา แต่น้ำหนักจะสูงกลับขึ้นเท่าเดิมเมื่อหยุดยาด้วยอาการที่เรียกว่า yo-yo effect คือผู้ใช้ยาจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะร่างกายปรับสภาพให้เผาผลาญพลังงานน้อยยาลดความอ้วนส่วนใหญ่ จัดเป็นอนุพันธ์ของ แอมเฟตามีน(amphetamine) ที่เป็นยาประเภทเดียวกับยาบ้า แต่พัฒนายาให้มีผลข้างเคียงต่อระบบประสาทน้อยกว่า



ประชาชนที่ซื้อยาลดความอ้วนรับประทานเอง จึงเป็นอันตรายมาก

          ส่วนใหญ่คนที่ใช้ยาลดความอ้วน เมื่อวัดปริมาณค่าดัชนีมวลกาย มักพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ความต้องการลดความอ้วนมักมาจากเกิดจากกระแสเลียนแบบดารา หรือต้องการทำตามเพื่อน


                      สลด!นักเรียนสาววัย 16 ปี กินยาลดความอ้วนช็อคตาย!!!


นี่ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่น่าสลด! นักเรียนสาววัย16ปี ฝันอยากเป็นนางแบบ-พริตตี้ แอบซื้อยาลดความอ้วนมากินเกิดช็อกตาย พ่อเผยเคยห้ามแล้ว พร้อมแนะให้ลดแบบธรรมชาติ แต่ลูกกลับซื้อมากินเองจากทางอินเทอร์เน็ต...


                                               

                    ยาอีกตัวที่มีแรงดึงดูดในหมู่ของวัยรุ่น



                                ยาที่ไม่ผ่าน อย.


     ยาสมุนไพรที่ไม่ผ่าน อย.       

                                                                                                 


 จากการสำรวจมานะค่ะ


ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย การควบคุมอาหารยิ่งเป็นเรื่องยากมากค่ะสำหรับสาวๆอวบๆแบบดิฉัน เพราะชอบกินตามใจปากเลยทำให้เป็นอย่างที่เห็นค่ะ พวกเธอก็เลยบอกมาว่าเธอก็ไม่รู้จะทำไงอ่ะค่ะ อิจฉานะค่ะเพื่อนที่มีหุ่นดีๆ มีแต่ผู้ชายมอง อยากให้เขามองเธอแบบนั้นบ้าง พวกเธอจึงหันมาพึ่งยาลดความอ้วนมาถึงปัจจุบันนี้  เพราะยาพวกนี่มันทำให้พวกเธอไม่อยากอาหารขับถ่ายเป็นปกติ ไม่กินจุกจิก ตามใจปาก สามารถลดได้จริงอย่างที่เขาโฆษณา ไม่ต้องทนหิวด้วยตนเองอีกต่อไป ไม่ต้องไปหักโหมออกกำลังกาย และ ปัจจุบันยังมีหุ่นดีดึงดูดสายตาพวกผู้ชายอีกด้วยค่ะ 


ผลเสียต่างๆ ของการกินยาลดความอ้วน


1. อาจจะทำให้เป็นโรคทางจิตได้
ยาลดความอ้วนส่วนใหญ่จะมีฤทธิเกี่ยวกับประสาท บางตัวก็จะไปกดประสาท ทำให้ไม่อยากกินอาหาร บางตัวก็จะไปทำให้ระบบของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้น้ำหนักลดก็จริง แต่ผลต่อร่างกายส่วนอื่นล่ะ
การกินยาที่ไปกดประสาทมากๆ หรือว่ายาบางตัวก็มีฤทธิ หลอนประสาท ทำให้ระบบประสาทของเรา ทำงานผิดพลาด อาจจะเกิดภาวะทางจิต เมื่อกินยาดังกล่าว ต่อเนื่องกัน เป็นระยะเวลานานๆ โดยปราศจากการควบคุมดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


2. นอนไม่หลับผู้ที่กินยาลดความอ้วนส่วนใหญ่ จะเกิดผลข้างเคียงอย่างหนึ่ง คือ นอนไม่หลับ จะว่ามีเรื่องเครียดก็ไม่เชิง เพียงแต่ว่านอนไม่หลับ กระสับกระส่าย แล้วทีนี้จากที่ไม่เครียดก็จะกลายเป็นเครียด ร่างกายอ่อนเพลีย อ่อนล้า เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ และอาจจะทำให้เราล้มป่วย ในที่สุด


3. คลื่นไส้อาเจียนอาการคลื่นไส้อาเจียนนี้ เป็นผลข้างเคียงพื้นฐานของการกินยาลดความอ้วนเลย เพราะตัวยา จะทำให้เราไม่อยากอาหาร เมื่อกินเข้าไปก็เหมือนกับร่างกายจะไม่ต้องการ ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน กินอะไรไป ก็ออกหมด ทีนี้ได้ผอมสมใจแน่ๆ แต่เป็นผอมแบบ ซูบซีด ตัวเหลือง ไม่ใช่ผอมแบบ สดใส


4. ติดยาอาการติดยา มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยๆ เนื่องมาจากยาลดความอ้วนนั้น มักจะมีส่วนผสมของสารเสพติดอยู่ด้วย ถ้ากินไปนานๆ ก็จะเกิดการเสพติดได้ เหมือนกับยาเสพติดทั่วไป เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะยาลดความอ้วนจำเป็นจะต้องจำกัดปริมาณยาที่กิน ไม่เช่นนั้น จะมีผลร้ายแก่ผู้ที่กิน และอาจจะร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้


5. หงุดหงิดง่ายยาลดความอ้วนนั้นมีผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างแน่นอน การกินยาลดความอ้วนจะทำให้สภาวะอารมณ์ของเราไม่คงที่ ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด ขัดใจไปเสียทุกอย่าง อารมณ์ร้ายกว่าที่เคย ถ้าใครขี้หงุดหงิดอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว ก็ยิ่งไปกันใหญ่เลย


6. โยโย่เอฟเฟ็กปฏิกิริยา โยโย่เอฟเฟ๊ก จะเกิดกับผู้ที่ลดความอ้วน ด้วยการกินยา โดยที่ไม่ควบคุมน้ำหนัก แทบทุกคน โยโยเอฟเฟ็ก ก็คือ เมื่อเราหยุดยาแล้ว น้ำหนักเราจะเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งบางคนเพิ่มมากกว่าเดิม 10 กิโลกรัมเลยทีเดียว จึงเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีว่า การกินยาลดน้ำหนัก ไม่ช่วยให้น้ำหนักของเราลดลงอย่างถาวร และการกินยาไปเรื่อยๆ ก็จะสร้างผลเสียให้กับร่างกายเรามากกว่าที่จะเป็นผลดีด้วยซ้ำ

           

นอกจากที่กล่าวไปแล้วนี้ ถ้าเรากินยาลดความอ้วนเกินขนาด ก็อาจจะทำให้หมดสติล้มตึง ปวดหัว เจ็บหน้าอก และอาจจะทำให้ เป็นโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไต ซึ่งอาจจะเป็นอันตราย ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ที่กล่าวมานี้ไม่ได้ขู่ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเรากินยาลดความอ้วน

                               


                          


 ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องพึ่งยา 

        

        ลำดับแรกคงต้องเริ่มจากความมุ่งมั่น จากนั้นรับประทานอาหารให้น้อยลงวันละ 500 กิโลแคลอรี่ น้ำหนักตัวจะลดลงได้ประมาณ 0.45 กิโลต่อสัปดาห์ ถ้าปฏิบัติได้จริงในช่วง 10 เดือน จะลดได้ 18 ก.ก.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากมีผลต่อน้ำหนักตัวที่ลดลงแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง ความเสี่ยงต่อโรคอื่นๆลดลง แนะนำให้ออกกำลังกายครั้งละ 20-30 นาที 5-7 วันต่อสัปดาห์


ป้องกันและลดวามเสี่ยงของโรคต่าง ๆ


ผลจากการวิจัยยืนยันว่า การออกกำลังกาย ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ และออกกำลังกายมากน้อยแค่ไหนก็ได้ประโยชน์ และโดยทั่วไปแล้ว ยิ่งออกกำลังกายมากยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้น



                                   


ปรับพฤติกรรมการรับประทาน

          เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่นรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้ช้าลง เคี้ยวอาหารให้นานขึ้นก่อนกลืนอาหาร จะทำให้รู้สึกอิ่ม จะบริโภคได้น้อยลง เป็นต้น  ที่สำคัญต้องไม่ซื้อยารับประทานเอง เพราะอาจอันตรายถึงชีวิต